วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

พาไปชิมเค้กสุดอร่อยที่ Mai Bakery พร้อมรีวิว Wongnai


วันนี้มีโอกาสได้แวะไปร้านเค้ก ที่เขาร่ำลือกันกว่า อร่อยที่สุดในเชียงใหม่ มันจะอะไรขนาดนั้น แบบนี้มันต้องมีการพิสูจน์กันหน่อย  แต่ก่อนจะไปผมเพิ่งได้ไปโหลด App ที่ชื่อว่า Wongnai (วงใน) จาก AppStore มาใช้พอดี ซึ่งเป็น App ที่เขาว่า รวมที่กินอร่อยๆ ทั่วไทยไว้ เลยถือโอกาส รีวิว ทั้ง App Wongnai  (สนใจไปดูรายละเอียดที่ www.wongnai.com) แลร้านเค้ก เจ้าเด็ดที่ว่านี่พร้อมกันซะเลย


ผมลองใช้ App Wongnai เปิดหาร้านเค้ก ที่ว่านี้ โดย เลือกพื้นที่เป็นจังหวัด เชียงใหม่ เพื่อหาดูว่า ร้านเค้กที่เขาว่านี้ มันมีจริงหรือเปล่า ถ้าดังจริง อย่างน้อยๆ น่าจะมีชื่อร้านนี้ โชว์ใน App นี้บ้าง มาดูกันเลย ว่าผมหาเจอไหม



มีจริงๆ ด้วย โดยใช้ App Wonnai  ใส่ชื่อจังหวัดเชียงใหม่ เข้าไป แล้ว หาชื่อ ร้าน Mai Bakery  หาไม่ยากเท่าไร เจอแล้ว ร้านที่เขาร่ำลือกัน นั่นคือ Mai Bakery   ใน App Wongnai มี แผนที่ Google Map ให้ดูด้วย อย่ากระนั้นเลย รีบซิ่งตามแผนที่แวะไปทันที  (สำหรับท่านที่ไปไม่ถูก ให้เริ่มจาก ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ขาเข้า มุ่งหน้าไปแยกข่วงสิงห์ วิ่งทางคู่ขนานไว้ จะเจอโชว์รูมรถยนต์วอลโล่ เลี้ยวเข้าซอยนั้นเลยครับ


เลี้ยวเข้าซอยมาหน่อยเดียว ให้มองทางขวามือไว้ จะเจอป้าย ถนน อนุบาล 2  เลี้ยวขวาเข้าไปเลย (แต่หน้าถนนนี้ มีป้าย ผึ้งน้อยเบอเกอรี่ ก็อย่าได้แคร์ เผอิญ สองเบอเกอรี่นี้อยู่ซอยเดียวกัน)  เข้าซอยไปหน่อยเดียวประมาณะ ร้อยเมตรได้มั้ง จะเจอร้านอยู่ด้านซ้ายมือ


สังเกตง่ายๆ หน้าร้านมีประตูไม้สีแดง และมีป้ายเขียนไว้ว่า Mai  Bakery in Garden (แต่ตัวอ้วนๆ ใส่แว่นนั่งหน้าร้านนั่น กระผมเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับร้าน) แต่การจะจอดรถหน้าร้านหรือข้างถนนจะยากนิดหนึ่งเนื่องจากถนน แคบ แต่ขอให้เลยหน้าร้านไปนิดเดียว จะมีหอพักอยู่ พร้อมมีป้ายเขียนว่า ที่จอดรถของร้าน Mai Bakery คือเข้าไปจอดในหอพักเลย จอดได้หลายคันพอควร หรือจอดซ้อนคัน กันก็ได้ (แต่ให้ใส่เกียร์ว่างไว้)   ระหว่างที่จอดรถของหอกับร้าน มีประตูเชื่อมต่อ เดินทะลุเข้าร้านจากลานจอดรถของหอพักได้เลย




เมื่อเดินผ่านประตูไม้ระแนงที่เชื่อมกับลานจอดรถ แล้วจะเจอบรรยากาศสวน ยังกะหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียวครับพี่น้อง



ร้านนี้พิเศษกว่าร้านกาแฟ ร้านเค้กที่ผมเคยไปมาในเชียงใหม่ คือ ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าร้าน และไม่มีที่วางรองเท้าเป็นกิจจะลักษณะ ก็ถอดๆ วางๆ กันไว้ด้านหน้าให้เกลื่อน (โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบแนวนี้เท่าไร ถอดรองเท้าเข้าร้าน)




มองเข้าไปในร้านก็จะพบ เคาเตอร์กาแฟ กับ ตู้แช่เค้ก ตั้งเด่นเป็นสง่า รอท่าอยู่แล้ว




ราคาเค้กกับ กาแฟ อยู่ระหว่าง 50 – 80 บาท ก็ถือว่า ระดับราคาปานกลาง  สำหรับชาวเชียงใหม่ แต่ตู้ที่โชว์เค้กอยู่นี่ก็นะ น่ากินมว๊ากกกก แต่ราคาไม่ได้ระบุไว้ตรงเค้ก





มองไปก็ไม่รู้จะเลือกกินอันไหน เพราะน่ากินไปหมด ก้มดูพุงตัวเองแล้วก็เริ่มสยองเพราะไม่ได้ไปฟิตเนสมาหลายวัน จะให้มาซัดเค้กทุกอย่างก็น่าจะทำให้น้ำหนักเพิ่มแน่ แต่ไหนๆ มาแล้ว ต้องลุยล่ะ เลยตัดใจถามคนขายว่า อันไหนฮิตสุด น้องเขาแนะนำเจ้า เค้กส้ม บอกว่า ฮิตมาก ส่วนอีกอัน สั่งกินเองดื้อๆ มันสวยดีคือ Black and White Chocolate (ชื่อนี้เปล่าหว่า? จำได้ Black White ๆ     อารายสักอย่างเนี่ย) จากนั้นก็กาแฟ 1 แก้ว เป็นสูตรของทางร้านชื่อ “ไหมจัง” กับ โกโก้เย็น อีก 1 แก้ว ลองชิมดู



ที่นั่งในร้านมีทั้งด้านในสวน ด้านหน้า เคาเตอร์ และ ด้านในห้องที่อยู่ด้านหลังเคาเตอร์ เป็นห้องที่กว้างขวางพอควรมีโต๊ะประมาณ 7-8 โต๊ะ นั่งได้กันสักประมาณ 20 คน ตกแต่งแนวเรียบๆ แต่ดูน่ารักดี  โต๊ะเก้าอี้ สวยงามมีสไตล์ เป็นแนวไม้ นั่งสวย แต่นั่งนานๆ ไม่ค่อยสบายก้นเท่าไร โต๊ะต่ำไปนิสนุง  แต่วันที่ผมไปยามบ่าย มีสาวๆ นศ. และคนทำงาน มานั่งกันเต็มเลย





ร้านนี้เท่าที่ผมเช็คจากสัญญาณดู เหมือนจะไม่มีปล่อย WiFi ให้เล่นนะ  อีกทั้งไม่เห็นปลั๊กไฟให้เสียบด้วย น่าจะไม่เหมาะกับการมานั่งทำงานเท่าไร    ขณะกวาดสายตาไปเม้าท์ไปสักแปป  สิ่งที่สั่งก็ถูกทยอยยกมาเสริฟ (พนักงานวางของได้เสียงดังมาก ไม่ละมุนละไมเท่าที่ควร ไม่รู้เหนื่อยหรือเปล่าลูกค้าแยะและอากาศร้อนมากวันนี้)



เมนูแรกที่มา คือตัวที่น้องเขาแนะนำผมเลย นั่งคือ เค้กส้ม  เป็นเค้กตามในรูปนั่นล่ะ ครับ รสชาติดีที่เดียว เนื้อเค้กนุ่มหวานละมุนลิ้น มีส้มสดๆ เป็นชิ้นๆ ปะวางอยู่ข้างหน้า ส้มหวานดีทีเดียว (น่าจะเป็นส้มสายน้ำผึ้ง) เนื้อครีมเนื้อเค้กอร่อยใช้ได้ ถือว่าผ่านเลยสำหรับเมนูนี้ ไม่ผิดหวังครับ   รออีกแป๊ปมาอีกชิ้นนึงแล้วสำหรับ Chocolate Cake





อันนี้เขาเรียกว่า Black and White (ถ้าจำชื่อไม่ผิด ท่องตั้งนานกลับมาบ้านลืมชื่อซะงั้น) เนื้อเค้กนุ่มอร่อยเช่นเคย ช๊อคโกแลตหอมหวานกำลังดี ไม่เหม็นสาบ  แต่สำหรับคนไม่ชอบหวาน เมนูนี้อาจจะหวานไปนิดนึง แต่สำหรับผมชอบมาก โดยเฉพาะ ชิ้นช๊อคโกแลตรูปหัวใจ (ใจดำ) อร่อยดีครับ เมนูนี้ผ่าน ไม่ผิดหวังครับ อร่อย   ขณะที่กำลังละเมียดละไมกับเค้กนั้น ผมลองเช็คดูข้อมูลของร้านนี้ที่มีอยู่ใน App Wongnai  คันไม้คันมือ อยากเขียนรีวิว ลงไปกับเขาบ้าง เลยลองเล่น app นี้ดู โดยเข้าไปเขียน Review จากสิ่งที่เราเห็นเรามาพบด้วยตัวเอง และให้คะแนนไปเป็นดาวด้วย ผมให้ไป 4 ดาวใน app





ให้ดาวเสร็จผมก็ Review สั้นๆ ใน App Wongnai ต่อ แต่ผมพยายามเขียนให้สั้นและได้ใจความที่สุด ก็เลยออกมาดังภาพด้านล่างนี้ล่ะ อิอิ (คือ ร้านเขาไม่มีแอร์นะ จริงๆ มีแอร์ด้านใน แต่เขาไม่เปิดอะ กลัวเปลืองแอร์มั่ง มีแต่พัดลมแม้กระทั่งยามบ่ายเลยออกอาการค่อนข้างร้อนง่ะ)



หลังจากไปรีวิว เม้าท์ร้านเขา ใน Wongnai App แล้ว ผมก็ไปดูข้อมูลเบื้องต้นของร้านนี้ใน App พบว่ายังมีไม่สมบูรณ์ขาดข้อมูลในอีกหลายๆ ส่วน ผมเลยอดไม่ได้กด App นี้แล้วเข้าไปคีย์เพิ่มให้สมบูรณ์


นึกว่า คีย์เสร็จข้อมูลจะอัพเดทให้ทันที แต่ปรากฏว่ามี pop up ขึ้นมาว่า ทางทีมงานจะไปตรวจสอบข้อมูลก่อน ก็ถือว่าดีนะครับ รอบคอบดี แต่ไม่รู้ว่าเขาจะตรวจสอบกันแบบไหนอย่างไร  (แต่ขณะเขียนบทความนี้ ปรากฏว่า มีเมล์ตอบกลับมาว่าได้อัพเดทข้อมูลตามที่ผมกรอกไปแล้ว ดูแล้วใช้เวลาไปทั้งสิ้นประมาณ 8 ชั่วโมงนะ ถือว่าเร็วใช้ได้เลย)



แต่ในส่วนของการ review หรือให้ความเห็นเกี่ยวกับรสชาติ หรือบรรยากาศของร้านนั้น พอผมคีย์ส่งเข้าระบบ ผ่านทาง iPhone ไปปั๊ป ข้อมูลก็ขึ้นให้ทันทีเลยนะ (ถือว่าใช้ได้ดีทีเดียวสำหรับ App นี้)  ผมถือโอกาสเอารูปผมที่ถ่ายที่ร้านอัพขึ้น ไปที่ Wongnai ด้วย อิอิ




พูดถึง App Wongnai แล้ว อยากให้ท่านที่ใช้ Smart Phone และเป็นนักชิมนักกิน โหลดติดไว้ในเครื่องกัน เพราะว่า เป็นลายแทงแหล่งชิมที่ดีทีเดียว ข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหาร ร้านเค้กร้านกาแฟ ในเชียงใหม่ก็มีอยู่มากพอสมควร แม้ว่าหลายๆ ที่ข้อมูลพื้นฐานเช่น รับบัตรเครดิตไหม มีที่จอดรถหรือเปล่า อาจจะยังไม่สมบูรณ์นัก แต่ตัว App ก็เปิดโอกาสให้เราในฐานะ user สามารถเข้าไปช่วยกันอัพเดท ได้  ที่เป็นเสน่ห์อีกอย่างคือรูปที่มีคนไปโพสต์พร้อมกับ รีวิว ที่มีคนเขียนกันไว้ ช่วยให้ได้อรรถรสในการตัดสินใจไปชิมเป็นอย่างมาก และตัวโปรแกรมเองก็ใช้งานไม่ได้ยากอะไร ที่สำคัญคือฟรี (มีทั้งบนเวอร์ชั่นบน iPhone และ Android  อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมไปคลิกอ่านดูที่ www.Wongnai.com)    เล่น App ซะเพลินเลย ชักคอแห้งเลยจิบกาแฟเย็น “ไหมจัง” หน่อย แก้วละ 50 บาท แต่แก้วใหญ่โตใช้ได้นะ




กาแฟแก้วนี้เป็นกาแฟสด แก้วใหญ่โตพอควร กลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ แต่ว่า ความหวานและความเข้มข้น สำหรับคนชอบหวาน มัน ถือว่า อ่อนไปนิดหนึ่งนะ ถ้าให้คะแนนผมให้ประมาณ 7 จาก 10 สำหรับกาแฟ แก้วนี้ ถือว่า ด้อยไปนิด สำหรับ กาแฟเย็นแก้วละ 50 บาทในเชียงใหม่ (ที่เชียงใหม่ มีร้านกาแฟที่ชงกาแฟเย็นได้อร่อยกว่านี้ในระดับราคานี้อยู่เยอะนะครับ)   สำหรับร้าน Mai Bakery จุดเด่นนอกจากเค้กที่แสนอร่อยแล้ว ยังมีมุมให้ถ่ายรูปค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะในสวน หรือของกระจุ๋งกระจิ๋งเล็ก ๆน้อยๆ ที่แทรกอยู่บนสนามหญ้าและตามมุมต่างๆ ของร้าน




ลืมบอกไปเลยว่าร้านนี้เปิดบริการตั้งแต่ 8:00 – 18:00  น. ตามป้ายที่เขาติดไว้หรา หน้าประตูร้าน ไม่เชื่อดูเลย ผมไปชี้เองกะมือ อิอิ





สรุปกันเลยดีกว่า สำหรับการไป รีวิว ร้าน Mai Bakery และ App Wongnai  ในคราวเดียวกัน ของผมวันนี้  จริงๆ เขายังมีเมนูเค้กอีกแยะนะ ไว้จะไปทยอยชิมอีก (กัวอ้วนน่ะ)  แต่สำหรับคราวนี้ผมให้คะแนนตามนี้เลย

App Wongnai  เป็น App ที่เหมาะมีติดโทรศัพท์ไว้จริงๆ ผมค่อนข้างชอบและประทับใจ เอาไป 8.5 /10  ที่ไม่ให้เต็มเพราะยังมีข้อมูลร้านในเชียงใหม่น้อยไปนิด แต่อนาคตหากช่วยกันเพิ่มกันเล่น App นี้ น่าจะทำให้ข้อมูลเพียบและน่าสนใจขึ้นอีกมาก แต่อย่างที่บอกโดยรวม ถือว่าดีมากๆ


ร้าน Mai Bakery โดยภาพรวม ผมให้คะแนน 8/10  ที่ไม่ให้เต็มเพราะต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าร้าน   อากาศร้อน เปิดแต่พัดลม ไม่ยอมเปิดแอร์  ส่วนโต๊ะเก้าอี้แม้จะสวย แต่นั่งนานๆ จะนั่งไม่สบาย ไม่มีปลั๊กไฟ ไม่มี WiFi บริการ พนักงานมีหัวใจในการบริการน้อยเกินไปหน่อย   จุดเด่นคือ สวนสวย ตกแต่งร้านได้ดี  ที่จอดรถมีพอสมควร (แม้จะน้อยไปนิดในยามลูกค้ามาพร้อมกันเยอะๆ)


เค้ก ส้ม และ เค้กช๊อคโกแล็ต  ผมให้คะแนน  9.5/10  ถือว่า รสชาติไม่เป็นรองใคร และคุ้มค่ากับราคา คือประมาณ 50-60 บาท ให้เค้กชิ้นใหญ่ และเนื้อเค้กนุ่มลิ้น   อร่อยครับอร่อย อันนี้ไม่ติอะไร แต่ที่ไม่ให้ 10 เต็ม เพราะเผื่อไว้มีที่ไหนอร่อยกว่า อิอิ


กาแฟเย็น “ไหมจัง”  ผมให้ 7/10  เพราะขาดความหวานมัน ไปหน่อย แต่กลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟ ก็ยังมีอยู่พอไหว แต่เมื่อเทียบกับราคา 50 บาท ผมสามารถหาร้านกาแฟเย็นที่อร่อยกว่านี้ได้ในเชียงใหม่แน่นอน (แม้ว่าบรรยากาศอาจจะสู้ที่นี่ไม่ได้ก็ตาม)

อย่างไรก็ตามผมคิดว่าจะกลับไปชิมเค้กแบบอื่นๆ ของร้านนี้อีก แล้วจะนำมารีวิวบอกอีกครั้ง ทั้งหมดล้วนเป็นความเห็นส่วนตัว ถ้าท่านลองไปชิมแล้วรู้สึกเป็นอย่างไรก็เขียนคอมเม้นท์มาคุยกันบ้าง ส่วนท่านที่มี Smart Phone ก็อย่าลืมลองไปโหลด App Wongnai มาลองเล่น ลองรีวิว ร้านต่างๆ ในเชียงใหม่ที่ท่านได้มีโอกาสไปชิมดู เพราะจะเป็นการช่วยกัน แชร์ ข้อมูลร้านดีๆ อร่อยๆ ให้ไปชิม แล้วมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะครับ

จารย์บอม
29-06-2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น