วันนี้ได้มีโอกาสหลบความวุ่นวายออกจากตัวเมืองเชียงใหม่
โดยมีจุดมุ่งหมายไปที่ อำเภอแม่ริม เพราะได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า
มีร้านกาแฟที่หลบลี้ ซ่อนตัวอยู่ในดินแดนแถบนี้
แต่เขาเล่าว่าเข้าไปลึกสักหน่อย
แต่คนตรึม ฟังดูแล้วก็คิดว่าคงงั้นๆ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ วันนี้อยากมาผจญภัยแถบนี้อยู่แล้ว
เอาไงเอากันไปก็ไป
อย่านึกว่าขับมาถึงตรงนี้จะใกล้แล้ว
ยังครับยัง ต้องขับต่อไปอีกสักพัก คอยมองหาป้ายไว้ดีๆ ด้านซ้ายมือ
(คือต่อจากนี้เลี้ยวซ้ายอย่างเดียว เลยให้มองป้ายด้านซ้ายไว้) เจอป้าย “ศาลากาแฟ”
ตรงไหน เลี้ยวตามอย่างเดียว
สักพักก็จะถึงครับ (ขณะที่ขับผ่านไปอย่าตกใจ เพราะสภาพโดยรอบมีแต่บ้านคน
เหมือนหลุดเข้าไปในหมู่บ้านอะไรสักแห่ง
ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีร้านกาแฟหรือร้านอาหารอยู่ด้านในได้เลย)
ในที่สุดก็มาถึงร้าน
“ศาลากาแฟ” ร้านนี้ ตั้งอยู่บนเนินเขา (หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ
แต่ที่มันค่อนข้างสูงกว่าที่แถวๆ นั้น)
ที่จอดรถมีอยู่ประมาณ 20 คันเห็นจะได้
ที่จอดรถค่อนข้างสะดวกกว้างขวาง แต่ที่ Surprise ผมสุดๆ ก็คือ ในขณะที่ผมไปถึง เกือบบ่าย 3 โมงของวันศุกร์แล้ว แต่รถจอดเกือบเต็มลานจอดรถ
(โอวว ผู้คนจากไหนมากันเนี่ย ยอมบุกลุยกันเข้ามาถึงตรงนี้เลยทีเดียว) แสดงว่าร้านนี้เขาต้องโด่งดังไม่เบา
(หรือมีแต่ข้าพเจ้าที่ตกข่าว ก็ไม่รู้นะ 555)
ร้านนี้ตั้งตระหง่านอยู่กลางสวนสวย
เป็นสนามหญ้า และมีการปลูกต้นไม้นานาพรรณ ที่นั่งกินนั่งดื่มกาแฟ ก็มีทั้งในตัวร้าน
(ตัวร้านเป็นลักษณะ บ้านเรือนไม้ 2 ชั้น
โดยส่วนของการชงกาแฟ และโชว์ขนมเค้ก อยู่ชั้นล่าง
อยากสั่งอะไรก็สั่งกันและจ่ายตังกันตรงนั้น จากนั้นก็แยกย้ายไปนั่งรอตามจุดต่างๆ
ตามอัธยาศัย เดี๋ยวพนักงานเขาจะตามไปส่งให้
เนื่องจากเพิ่งจะซัดกาแฟ
มาสดๆ ร้อนๆ ก่อนจะมาที่นี่ วันนี้เลยอดชิมกาแฟ
เพราะกลัวจะตาค้างไม่ได้หลับได้นอนซะก่อน เลยลองชิมเมนูที่เขาเขียนว่า New (แปลว่า ใหม่ อิอิ) นั่นคือ “ชาเขียวถั่วแดง” เลยจะรีวิวอันนี้ก่อน ส่วนกาแฟ
เดี๋ยวครั้งหน้ามีโอกาสไปอีกจะเขียนมาเล่าเพิ่มเติมให้
สภาพของ “ชาเขียวถั่วแดง”
ที่นำมาเสริฟนั้น ดูรูปการจากภายนอกแล้ว สวยงาม น่าดูดดื่ม เป็นอย่างยิ่ง
แต่หลังจากได้ทดลองชิมแล้วพบว่า ถั่วแดงที่อยู่ก้นแก้วนั้น ต้มไม่ค่อยจะสุก แข็งไปหน่อยนะ
(อันนี้ผมไม่ให้ผ่าน) ส่วนรสชาติของชาเขียวเย็นใส่นม ผมให้ประมาณ 6/10 ไม่ถึงกับแย่ แต่ก็ไม่มีอะไรพิเศษ
ความหอมของกลิ่นชาเขียวยังน้อยกว่าชาเขียวเย็นใส่นมในบางร้านที่เชียงใหม่ที่ผมเคยไปดื่มมา แต่ถั่วแดงนี่แข็งไปนะ ไม่อร่อย
ผมลองสั่งเค้กกล้วยหอมมาด้วย ราคา 45 บาท อร่อยพอได้ ผมให้ 7/10 แต่ผมเคยกินอร่อยกว่านี้ที่ร้านข้าวมันไก่นันทาราม
สาขาศิริมังคลาจารย์ (งงมะ เค้กกล้วยหอมไปอยู่ร้านข้าวมันไก่
คือมันเป็นเค้กที่เขาวางฝากขายไว้ที่ร้านข้าวมันไก่น่ะ)
ที่ร้านนี้ยังมีเมนูอาหารต่างๆ
เช่น พวกสปาเกตตี้ และอาหารฝรั่ง แต่ผมไม่ได้ลองชิม
อันนี้เลยไม่กล้าฟันธงหรือให้เรตติ้งแต่ประการใด ท่านอาจจะมีคำถามกับผมว่า ไอ้โน่นก็ไม่ดี
ไอ้นี่ก็ไม่ไหว แล้วทำไมผมและประชาชนอีกมากมายถึงยังถ่อสังขารไปไกลขนาดนั้น
สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นได้อย่างชัดเจนเลยก็คือ
สภาพและบรรยากาศของร้านน่านั่งมาก อันนี้ผมให้ 8/10 เพราะวิวทิวทัศน์ของต้นไม้และสนามหญ้า
รวมทั้งอากาศบนที่สูงของเนินเขาแถบแม่ริม ทำให้ร้านกาแฟนี้ดูน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
อีกประการหนึ่งก็คือมีมุมของต้นไม้ ดอกไม้สวยๆ ให้ถ่ายรูปมากมาย
ผมเห็นแทบทุกคนพกกล้องหรือยกโทรศัพท์มือถือ เดินถ่ายรูปมุมธรรมชาติต่างๆ
ของร้านกันแทบทุกคนเลย
สภาพเพดานในศาลาที่ผมนั่งจิบชาเขียว |
จุดเด่นอีกประการหนึ่งของร้านนี้คือ
มีที่นั่งกระจายอยู่หลายบริเวณและหลากหลายอารมณ์ทั้งกลางแจ้งในสวน
และทั้งในอาคารไม้ และ
บริเวณศาลาขนาดใหญ่ด้านนอก
ซึ่งแต่ละที่ก็จะให้บรรยากาศที่แตกต่างกัน
ตรงนี้ถือเป็นเสน่ห์หลักอย่างหนึ่งของร้านนี้
นอกจากนั้น ยังมีปลั๊กไฟ กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ
เหมาะสำหรับท่านที่ชาร์จมือถือหรือเสียบปลั๊กโน๊ตบุ๊ค อันนี้ถือว่าผ่านใช้ได้ แต่สิ่งที่น่าเสียใจคือวันที่ผมไป
แม้ว่าทางร้านจะมี WiFi ให้ใช้บริการฟรี แบบที่ไม่ต้องใส่ password แต่กลับพบว่า เน็ตไม่นิ่ง ติดๆ ดับๆ
(ที่สัญญาณเน็ต ไม่ใช่สัญญาณ WiFi) ท้ายสุดเลยได้ใช้
3G จากมือถือ (ที่นี่ 3G ของ Dtac
สัญญาณเต็มวิ่งฉิว) อันนี้ผมให้แค่ 7/10 สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกด้านไอที
เพราะถือว่ามีปลั๊กไฟให้ ไม่เก็บตัง แต่เน็ตไม่นิ่งเลยโดนตัดคะแนนด้านนี้ไป
ในส่วนเรื่องของการบริการ
ก็ถือว่า พื้นๆ ธรรมดาทั่วไป ไม่ได้ประทับใจอะไรเป็นพิเศษและก็ไม่มีอะไรตำหนิเป็นพิเศษ ด้านบนของอาคาร (ชั้น 2) ถ้าต้องการเข้าไปนั่งจะต้องถอดรองเท้า
อันนี้พอเข้าใจได้ แต่มองในแง่ความสะดวกไม่ค่อยสะดวกเท่าไร ห้องน้ำห้องท่า
เข้าไปดูแล้ว สะอาดใช้ได้ดี แต่ปัญหาคือ น้ำที่ใช้ในอ่างล้างหน้า ลองนำมาบ้วนปากดู
รสชาติกร่อยและฝาดมาก (อาจเป็นน้ำบาดาลที่ขุดขึ้นมาใช้
โดยผ่านกระบวนการกรองที่ยังไม่ดีพอ ) แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมากมาย
เรื่องห้องน้ำ ผมให้ไปที่ 7/10
สรุปก็คือจุดเด่นของร้าน
“ศาลากาแฟ” อยู่ที่บรรยากาศที่สงบ (แต่ไม่เงียบเพราะลูกค้าเยอะ) เหมาะกับคู่รักหรือกิ๊กแอบมานั่งโรแมนติคหวานแหวว
หรือมาเที่ยวเป็นหมู่คณะแล้วถ่ายรูป Check in 4 Square อันนี้ก็เก๋ไปอีกแบบ แต่ถ้าจะมานั่งเอางานมาทำ เอาคอมฯมาพิมพ์
เป็นเรื่องเป็นราว อันนี้ไม่ขอแนะนำ เพราะอารมณ์ทำงานไม่ค่อยเหมาะสำหรับที่นี่
(แต่ก็เห็นมีคนหอบงานมาทำนะ)
ที่นี่เหมาะกับการนั่งดื่มด่ำธรรมชาติและนั่งคิดวางแผนอะไรเพลินๆ
หรือหยิบหนังสือที่ถูกใจมานั่งอ่าน หรือจะนั่งทอดสายตาดูผู้คนที่เดินไปเดินมา
หรือแอบดูเขาแอคชั่นหล่อๆ สวยๆ ถ่ายรูปอันนี้ก็จะดีมาก
แต่สิ่งที่ผมเขียนนี้
ยังไม่ครบสมบูรณ์นะครับ เพราะผมยังไม่ได้ลองจิบกาแฟเขาเลย อ่อได้ลองชาเขาอยู่เป็น เอิลเกรย์
เสริฟมาเป็นกา แต่ว่า รสชาติก็งั้นๆ เพราะชามันก็เป็นชา มาเป็นซองอยู่แล้ว
อันนี้ไม่มีอะไรพิสดารหรือโดดเด่น ก่อนจะจบโม้มาเยอะ เอาเป็นว่าสั้นๆ ง่ายๆ “ศาลากาแฟ” เหมาะไปถ่ายรูปมุมสวยๆ และนั่งจิบกาแฟ
อ่านหนังสือเล่มโปรดหรือปล่อยปล่อยความคิดให้สมองผ่อนคลาย
แต่รสชาตินี่ก็ถือว่าธรรมดา รวมทั้งระดับราคาก็ถือว่าปกติ
ไม่ได้แพงเว่อร์อะไร ถ้ามีโอกาสจะกลับไปชิมกาแฟและอาหารรวมทั้งขนมอื่นๆ
และกลับมาเล่าให้ฟังอีกครั้งนะครับ
จารย์บอม
30-11-55
จารย์บอม
30-11-55
ปล. มีผู้ที่มีประสบการณ์ ฝากมาบอกหลังจากอ่านบล็อกของผมว่า "อย่าไปในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์" เนื่องจากมีคนไปเป็นจำนวนมากจนแทบหาที่นั่งไม่ได้เลยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น