วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ศาลากาแฟ…จิบกาแฟในสวนสวยอากาศดี


วันนี้ได้มีโอกาสหลบความวุ่นวายออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ โดยมีจุดมุ่งหมายไปที่ อำเภอแม่ริม เพราะได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า มีร้านกาแฟที่หลบลี้ ซ่อนตัวอยู่ในดินแดนแถบนี้  แต่เขาเล่าว่าเข้าไปลึกสักหน่อย  แต่คนตรึม ฟังดูแล้วก็คิดว่าคงงั้นๆ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ วันนี้อยากมาผจญภัยแถบนี้อยู่แล้ว เอาไงเอากันไปก็ไป


การเดินทางไปร้านกาแฟนี้ ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรจากตัวเมืองเชียงใหม่ ตรงดิ่งเข้าสี่แยกศาลเด็ก เลี้ยวซ้าย ตรงอย่างเดียวผ่าน ศาลากลางจังหวัด ตรงไปเรื่อยๆ จนถึง เขตแม่ริม ผ่านหน้าโรงพยาบาลดารารัศมี ไป สักพักจะเจอสามแยกไฟแดง (เขาเรียกแยกอะไรก็ไม่รู้ 555)   เจอสามแยกนี้ปั๊ป เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย ตรงไปเรื่อยๆ (กี่ร้อยเมตร หรือกี่กิโลก็ไม่รู้อีกนั่นล่ะ) สิ่งที่เป็นที่สังเกตคือ มองทางด้านขวาเข้าไว้ จะเจอ ที่ทำการของการประปาส่วนภูมิภาค อยู่ด้านขวา ถ้าเจอปั๊ป ให้มองด้านซ้าย จะเจอซอยให้เลี้ยวซ้าย ปากซอยจะมีป้ายพร้อมลูกศร บอกชื่อ “ศาลากาแฟ” ไว้  อะนะ เจอแบบนี้รับรองไม่หลง


อย่านึกว่าขับมาถึงตรงนี้จะใกล้แล้ว ยังครับยัง ต้องขับต่อไปอีกสักพัก คอยมองหาป้ายไว้ดีๆ ด้านซ้ายมือ (คือต่อจากนี้เลี้ยวซ้ายอย่างเดียว เลยให้มองป้ายด้านซ้ายไว้) เจอป้าย “ศาลากาแฟ” ตรงไหน เลี้ยวตามอย่างเดียว  สักพักก็จะถึงครับ (ขณะที่ขับผ่านไปอย่าตกใจ เพราะสภาพโดยรอบมีแต่บ้านคน เหมือนหลุดเข้าไปในหมู่บ้านอะไรสักแห่ง ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีร้านกาแฟหรือร้านอาหารอยู่ด้านในได้เลย)


ในที่สุดก็มาถึงร้าน “ศาลากาแฟ” ร้านนี้ ตั้งอยู่บนเนินเขา (หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ แต่ที่มันค่อนข้างสูงกว่าที่แถวๆ นั้น)  ที่จอดรถมีอยู่ประมาณ 20 คันเห็นจะได้ ที่จอดรถค่อนข้างสะดวกกว้างขวาง  แต่ที่ Surprise ผมสุดๆ ก็คือ ในขณะที่ผมไปถึง เกือบบ่าย 3 โมงของวันศุกร์แล้ว แต่รถจอดเกือบเต็มลานจอดรถ (โอวว ผู้คนจากไหนมากันเนี่ย ยอมบุกลุยกันเข้ามาถึงตรงนี้เลยทีเดียว)  แสดงว่าร้านนี้เขาต้องโด่งดังไม่เบา (หรือมีแต่ข้าพเจ้าที่ตกข่าว ก็ไม่รู้นะ 555)

มองจากหน้าประตูทางเข้าทะลุไปด้านหลังจะเห็นสนามหญ้ากว้างและศาลาใหญ่นั่งจิบกาแฟ

ร้านนี้ตั้งตระหง่านอยู่กลางสวนสวย เป็นสนามหญ้า และมีการปลูกต้นไม้นานาพรรณ ที่นั่งกินนั่งดื่มกาแฟ ก็มีทั้งในตัวร้าน (ตัวร้านเป็นลักษณะ บ้านเรือนไม้ 2 ชั้น โดยส่วนของการชงกาแฟ และโชว์ขนมเค้ก อยู่ชั้นล่าง อยากสั่งอะไรก็สั่งกันและจ่ายตังกันตรงนั้น จากนั้นก็แยกย้ายไปนั่งรอตามจุดต่างๆ ตามอัธยาศัย เดี๋ยวพนักงานเขาจะตามไปส่งให้




เนื่องจากเพิ่งจะซัดกาแฟ มาสดๆ ร้อนๆ ก่อนจะมาที่นี่ วันนี้เลยอดชิมกาแฟ เพราะกลัวจะตาค้างไม่ได้หลับได้นอนซะก่อน เลยลองชิมเมนูที่เขาเขียนว่า New (แปลว่า ใหม่ อิอิ) นั่นคือ “ชาเขียวถั่วแดง”      เลยจะรีวิวอันนี้ก่อน ส่วนกาแฟ เดี๋ยวครั้งหน้ามีโอกาสไปอีกจะเขียนมาเล่าเพิ่มเติมให้



สภาพของ “ชาเขียวถั่วแดง” ที่นำมาเสริฟนั้น ดูรูปการจากภายนอกแล้ว สวยงาม น่าดูดดื่ม เป็นอย่างยิ่ง แต่หลังจากได้ทดลองชิมแล้วพบว่า ถั่วแดงที่อยู่ก้นแก้วนั้น ต้มไม่ค่อยจะสุก แข็งไปหน่อยนะ (อันนี้ผมไม่ให้ผ่าน) ส่วนรสชาติของชาเขียวเย็นใส่นม ผมให้ประมาณ 6/10 ไม่ถึงกับแย่ แต่ก็ไม่มีอะไรพิเศษ ความหอมของกลิ่นชาเขียวยังน้อยกว่าชาเขียวเย็นใส่นมในบางร้านที่เชียงใหม่ที่ผมเคยไปดื่มมา  แต่ถั่วแดงนี่แข็งไปนะ ไม่อร่อย 



ผมลองสั่งเค้กกล้วยหอมมาด้วย ราคา 45 บาท อร่อยพอได้ ผมให้ 7/10 แต่ผมเคยกินอร่อยกว่านี้ที่ร้านข้าวมันไก่นันทาราม สาขาศิริมังคลาจารย์ (งงมะ เค้กกล้วยหอมไปอยู่ร้านข้าวมันไก่ คือมันเป็นเค้กที่เขาวางฝากขายไว้ที่ร้านข้าวมันไก่น่ะ)    

ที่ร้านนี้ยังมีเมนูอาหารต่างๆ เช่น พวกสปาเกตตี้ และอาหารฝรั่ง แต่ผมไม่ได้ลองชิม อันนี้เลยไม่กล้าฟันธงหรือให้เรตติ้งแต่ประการใด    ท่านอาจจะมีคำถามกับผมว่า ไอ้โน่นก็ไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่ไหว แล้วทำไมผมและประชาชนอีกมากมายถึงยังถ่อสังขารไปไกลขนาดนั้น 


สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นได้อย่างชัดเจนเลยก็คือ สภาพและบรรยากาศของร้านน่านั่งมาก อันนี้ผมให้ 8/10 เพราะวิวทิวทัศน์ของต้นไม้และสนามหญ้า รวมทั้งอากาศบนที่สูงของเนินเขาแถบแม่ริม ทำให้ร้านกาแฟนี้ดูน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง



 อีกประการหนึ่งก็คือมีมุมของต้นไม้ ดอกไม้สวยๆ ให้ถ่ายรูปมากมาย ผมเห็นแทบทุกคนพกกล้องหรือยกโทรศัพท์มือถือ เดินถ่ายรูปมุมธรรมชาติต่างๆ ของร้านกันแทบทุกคนเลย

สภาพเพดานในศาลาที่ผมนั่งจิบชาเขียว

จุดเด่นอีกประการหนึ่งของร้านนี้คือ มีที่นั่งกระจายอยู่หลายบริเวณและหลากหลายอารมณ์ทั้งกลางแจ้งในสวน และทั้งในอาคารไม้  และ บริเวณศาลาขนาดใหญ่ด้านนอก  ซึ่งแต่ละที่ก็จะให้บรรยากาศที่แตกต่างกัน ตรงนี้ถือเป็นเสน่ห์หลักอย่างหนึ่งของร้านนี้  นอกจากนั้น ยังมีปลั๊กไฟ กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ เหมาะสำหรับท่านที่ชาร์จมือถือหรือเสียบปลั๊กโน๊ตบุ๊ค อันนี้ถือว่าผ่านใช้ได้   แต่สิ่งที่น่าเสียใจคือวันที่ผมไป แม้ว่าทางร้านจะมี WiFi ให้ใช้บริการฟรี แบบที่ไม่ต้องใส่ password แต่กลับพบว่า เน็ตไม่นิ่ง ติดๆ ดับๆ (ที่สัญญาณเน็ต ไม่ใช่สัญญาณ WiFi) ท้ายสุดเลยได้ใช้ 3G จากมือถือ (ที่นี่ 3G ของ Dtac สัญญาณเต็มวิ่งฉิว)   อันนี้ผมให้แค่ 7/10 สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกด้านไอที เพราะถือว่ามีปลั๊กไฟให้ ไม่เก็บตัง แต่เน็ตไม่นิ่งเลยโดนตัดคะแนนด้านนี้ไป



ในส่วนเรื่องของการบริการ ก็ถือว่า พื้นๆ ธรรมดาทั่วไป ไม่ได้ประทับใจอะไรเป็นพิเศษและก็ไม่มีอะไรตำหนิเป็นพิเศษ  ด้านบนของอาคาร (ชั้น 2) ถ้าต้องการเข้าไปนั่งจะต้องถอดรองเท้า อันนี้พอเข้าใจได้ แต่มองในแง่ความสะดวกไม่ค่อยสะดวกเท่าไร ห้องน้ำห้องท่า เข้าไปดูแล้ว สะอาดใช้ได้ดี แต่ปัญหาคือ น้ำที่ใช้ในอ่างล้างหน้า ลองนำมาบ้วนปากดู รสชาติกร่อยและฝาดมาก (อาจเป็นน้ำบาดาลที่ขุดขึ้นมาใช้ โดยผ่านกระบวนการกรองที่ยังไม่ดีพอ ) แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมากมาย เรื่องห้องน้ำ ผมให้ไปที่ 7/10


สรุปก็คือจุดเด่นของร้าน “ศาลากาแฟ” อยู่ที่บรรยากาศที่สงบ (แต่ไม่เงียบเพราะลูกค้าเยอะ)  เหมาะกับคู่รักหรือกิ๊กแอบมานั่งโรแมนติคหวานแหวว หรือมาเที่ยวเป็นหมู่คณะแล้วถ่ายรูป Check in 4 Square อันนี้ก็เก๋ไปอีกแบบ แต่ถ้าจะมานั่งเอางานมาทำ เอาคอมฯมาพิมพ์ เป็นเรื่องเป็นราว อันนี้ไม่ขอแนะนำ เพราะอารมณ์ทำงานไม่ค่อยเหมาะสำหรับที่นี่ (แต่ก็เห็นมีคนหอบงานมาทำนะ)  ที่นี่เหมาะกับการนั่งดื่มด่ำธรรมชาติและนั่งคิดวางแผนอะไรเพลินๆ หรือหยิบหนังสือที่ถูกใจมานั่งอ่าน หรือจะนั่งทอดสายตาดูผู้คนที่เดินไปเดินมา หรือแอบดูเขาแอคชั่นหล่อๆ สวยๆ ถ่ายรูปอันนี้ก็จะดีมาก


แต่สิ่งที่ผมเขียนนี้ ยังไม่ครบสมบูรณ์นะครับ เพราะผมยังไม่ได้ลองจิบกาแฟเขาเลย อ่อได้ลองชาเขาอยู่เป็น เอิลเกรย์ เสริฟมาเป็นกา แต่ว่า รสชาติก็งั้นๆ เพราะชามันก็เป็นชา มาเป็นซองอยู่แล้ว อันนี้ไม่มีอะไรพิสดารหรือโดดเด่น    ก่อนจะจบโม้มาเยอะ เอาเป็นว่าสั้นๆ ง่ายๆ  “ศาลากาแฟ” เหมาะไปถ่ายรูปมุมสวยๆ และนั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือเล่มโปรดหรือปล่อยปล่อยความคิดให้สมองผ่อนคลาย แต่รสชาตินี่ก็ถือว่าธรรมดา รวมทั้งระดับราคาก็ถือว่าปกติ ไม่ได้แพงเว่อร์อะไร     ถ้ามีโอกาสจะกลับไปชิมกาแฟและอาหารรวมทั้งขนมอื่นๆ และกลับมาเล่าให้ฟังอีกครั้งนะครับ

จารย์บอม
30-11-55

ปล. มีผู้ที่มีประสบการณ์ ฝากมาบอกหลังจากอ่านบล็อกของผมว่า "อย่าไปในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์" เนื่องจากมีคนไปเป็นจำนวนมากจนแทบหาที่นั่งไม่ได้เลยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น